viagra sildenafil คืออะไร เหมือนหรือต่างกับยาไวอากร้าที่รู้จักอย่างไร
28 ธันวาคม 2563, 02:05 น.
าไวอากร้า คืออะไร? ต่างกับ viagra sildenafil หรือไม่
ไวอากร้า เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ที่ได้รับการรับรองว่าใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากการที่อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวได้ จึงต้องใช้ไวอากร้าในการช่วยรักษา ซึ่งยาไวอากร้านั้นได้รับการรับรองให้ใช้กับผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น
ไวอากร้า จะประกอบด้วยยาซิลเดนาฟิล (sildenafil) เป็นยาประเภทหนึ่งที่เรียกว่าสารยับยั้ง phosphodiesterase type 5 (PDE5) ซึ่งเป็นยากลุ่มหนึ่งที่ออกฤทธิ์คล้าย ๆ กัน โดยยาไวอากร้านั้นจะทำงานโดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศ และช่วยให้อวัยวะเพศชายคงการแข็งตัว แต่ยาไวอากร้านี้ใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อมีอารมณ์ทางเพศ เพราะไม่ใช่ยาปลุกเซ็กส์แต่อย่างใด
รูปแบบของยาไวอากร้านั้น จะเป็นยาเม็ดที่ใช้กิน ส่วนใหญ่ควรใช้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนมีกิจกรรมทางเพศ แต่อาจใช้เวลา 30 นาทีถึง 4 ชั่วโมงก่อนถึงเวลามีเพศสัมพันธ์ก็ได้ ซึ่งยาไวอากร้านั้นจะมีให้เลือก 3 ขนาด คือ 25 มิลลิกรัม 50 มิลลิกรัม และ 100 มิลลิกรัม ตามปริมาณตัวยา
ยาไวอากร้าจะมีประสิทธิภาพในการรักษาโรค ED ได้ ซึ่งผู้ชายที่ใช้ยานี้ จะทำให้มีความสามารถที่ดีขึ้นในการที่อวัยวะเพศแข็งตัวได้ และทำให้มีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จ และจากการศึกษาพบว่า 43-83% ของผู้ชายที่กินยาไวอากร้า จะมีการแข็งตัวดีขึ้น แต่ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุของ ED ของแต่ละคน และปริมาณของไวอากร้าที่ใช้ด้วย
viagra sildenafil คืออะไร?
ซิลเดนาฟิล (Sildenafil) เป็นยาที่ออกฤทธิ์ในไวอากร้า นอกจากจะมีจำหน่ายเป็นยาไวอากร้าแล้วนั้น ยังมีจำหน่ายในรูปแบบยาสามัญอีกด้วย เรามาดูกันว่าไวอากร้าและซิลเดนาฟิลนั้น มีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร
ไวอากร้า คือชื่อการค้าที่มีซิลเดนาฟิลเป็นตัวยา ที่นอกจากจะเป็นตัวยาในไวอากร้าแล้วนั้น ซิลเดนาฟิลยังมีจำหน่ายเป็นยาสามัญอีกด้วย ยาสามัญ คือสำเนาที่ถูกต้องของยาที่ใช้งานอยู่ในชื่อการค้ายี่ห้อต่าง ๆ ซึ่งยาสามัญถือได้ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาต้นแบบ และมักจะมีราคาถูกกว่ายาที่มียี่ห้อการค้า
ไวอากร้าได้รับการรับรองในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ในผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไป มาในรูปแบบเม็ดที่มีขนาดของยาคือ 25, 50 และ 100 มิลลิกรัม เช่นเดียวกับ viagra sildenafil บางรูปแบบ ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้รักษาโรค ED ในผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไปเช่นกัน นอกจากนี้ซิลเดนาฟิลยังมาพร้อมกับยาเม็ดขนาด 20 มิลลิกรัมด้วย นอกจากนี้ยังมีซิลเดนาฟิลที่เป็นสารแขวนลอยของเหลวในรูปแบบยากิน และเป็นสารละลายในรูปแบบยาฉีด ซึ่งรูปแบบของซิลเดนาฟิลเหล่านี้จะเป็นยาในชื่อแบรนด์ทั่วไปที่เรียกว่า Revatio ที่มีความต่างจากไวอากร้าตรงที่ไม่ได้ใช้รักษาโรค ED แต่ใช้ในการรักษาอาการความดันโลหิตสูงในปอด (PAH)
ประสิทธิผลและความปลอดภัยของ viagra sildenafil
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของอเมริกา (FDA) ได้พิจารณาว่ายาสามัญมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาต้นแบบ ซึ่งหมายความว่าซิลเดนาฟิลทั่วไปมีประสิทธิภาพในการรักษา ED เช่นเดียวกับไวอากร้า เมื่อใช้ในปริมาณเดียวกัน นอกจากนี้ยังหมายความว่า ซิลเดนาฟิล และไวอากร้า อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นเดียวกันด้วย
ผลข้างเคียงที่อาจขึ้นในการใช้ยาไวอากร้า
ยาไวอากร้านั้น อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงหรือร้ายแรงได้ ซึ่งผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจากไวอากร้านั้นไม่ใช่เรื่องปกติ หากเกิดอาการขณะหรือหลังจากที่ใช้ยาและรู้สึกเป็นอันตรายถึงชีวิต ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว ซึ่งอาการที่รุนแรง ได้แก่
1. โรคระบบประสาทตาเสื่อมที่ไม่ใช่เส้นเลือดแดง เป็นภาวะสายตาที่ทำให้เส้นประสาทตาของคุณเสียหายได้ อาการอาจรวมถึงประสิทธิภาพในการมองเห็นลดลงอย่างกะทันหันในตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
2. สูญเสียการมองเห็นอย่างกะทันหันในตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
3. การได้ยินลดลงหรือสูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหัน ภาวะนี้อาจเกี่ยวข้องกับอาการอื่น ๆ เช่น หูอื้อ หรือมีเสียงหึ่งในหู
4. มีอาการแพ้ยา ดังนี้
- เกิดอาการ priapism หรือ อวัยวะเพศมีการแข็งตัวที่ยาวนานและเจ็บปวดบางครั้ง
- ความดันโลหิตต่ำลง หากกินยาไวอากร้าร่วมกับยาอื่น ๆ
- มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจวาย หัวใจเต้นผิดปกติ หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งอาการแพ้ทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ
ส่วนผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงของการใช้ยา viagra sildenafil และอาการส่วนใหญ่อาจหายได้เองภายใน 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์ แต่ถ้าอาการรุนแรงขึ้นหรือไม่หาย ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที อาการดังกล่าว คือ
- มีอาการปวดหัว เวียนหัว
- อาหารไม่ย่อย
- มีการมองเห็นภาพต่าง ๆ เป็นสีฟ้า และมีการมองเห็นไม่ชัด รวมถึงมีความไวต่อแสง
- มีการคัดจมูก
- ปวดหลัง
- เจ็บกล้ามเนื้อ
- มีผื่นขึ้น
อาการแพ้ยาไวอากร้า
เช่นเดียวกันกับยาส่วนใหญ่ ที่ในบางคนอาจมีอาการแพ้หลังจากกินยาไวอากร้าเข้าไป ซึ่งปกติแล้วจะพบว่าน้อยกว่า 2% ของผู้ที่กินไวอากร้ามีอาการแพ้ แต่อาจพบได้มากในคนที่ใช้ยาไวอากร้าปลอม ซึ่งนอกจากจะมีอาการแพ้แล้วยังมีผลข้างเคียงที่รุนแรงอีกด้วย อาการแพ้ยาไวอากร้าที่ไม่รุนแรง คือ มีผื่นที่ผิวหนัง มีอาการคัน มีรอยแดงเกิดขึ้นที่ผิวหนังคล้ายลมพิษ ส่วนอาการแพ้ที่รุนแรงกว่านี้นั้น แม้ว่าจะพบได้ไม่มาก แต่ก็เป็นไปได้ ซึ่งอาการของอาการแพ้อย่างรุนแรงนั้น มีดังนี้
- อาการบวมใต้ผิวหนัง โดยทั่วไปจะอยู่ที่บริเวณเปลือกตา ริมฝีปาก มือ หรือเท้า
- อาการบวมที่ลิ้น ปาก หรือลำคอ
- หายใจลำบาก
- อวัยวะแข็งตัวนานเกินไป และเกิดความเจ็บปวด เรียกอาการนี้ว่า Priapism เป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาทันที หากไม่ได้รับการรักษา อาการนี้อาจทำลายเนื้อเยื่อในอวัยวะเพศ และทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศแบบถาวร หรือโรค ED ซึ่งหากว่าอวัยวะเพศมีการแข็งตัวที่นานกว่า 4 ชั่วโมง ให้รีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
ความดันโลหิตต่ำ กับ ยาไวอากร้า
ยาไวอากร้า สามารถไปลดความดันโลหิตได้ชั่วคราวหลังจากที่กินยาเข้าไป แต่อาจไม่ใช่ปัญหาของคนส่วนใหญ่ เพราะพบว่าน้อยกว่า 2% ของผู้ที่กินไวอากร้าที่มีความดันโลหิตต่ำหลังจากกินยา แต่ในขณะเดียวกันหากความดันโลหิตลดลงอย่างกะทันหันอาจเป็นอันตรายได้ หากคุณมีโรคหัวใจบางอย่าง และอาจเป็นอันตรายหากกำลังใช้ยาอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ยาไนเนรต ที่ใช้รักษาอาการเจ็บหน้าอก จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาไวอากร้า เพราะการกินไวอากร้าร่วมกับยาเหล่านี้ อาจทำให้ความดันโลหิตลดลงอย่างเป็นอันตราย ซึ่งนำไปสู่อาการหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองได้ เพราะฉะนั้น หากมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจหรือความดันโลหิตต่ำ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
ยาไวอากร้า รวมถึง viagra sildenafil นั้น มีประสิทธิภาพในการช่วยเรื่องอวัยวะเพศแข็งตัวได้ เป็นหนึ่งในการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งนอกไปจากการกินยาเพื่อรักษาอาการแล้วนั้น ยังมีวิธีอื่น ๆ ทางการแพทย์ที่สามารถรักษาโรค ED ได้ ซึ่งวิธีที่แพทย์ใช้ก็จะแตกต่างกันไปตามอาการ ED ของแต่ละคน หากมีปัญหาในเรื่องของอวัยวะเพศไม่แข็งตัว และยาไวอากร้ายังไม่สามารถช่วยได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด